หมอปลา มือปราบสัมภเวสี หรือ นายจิรพันธ์ เพชรขาว หรือที่รู้จักกันในชื่อ หมอปลา มือปราบสัมภเวสี เป็นผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ นักแสดง นักเขียน ยูทูบเบอร์ ค้าขาย ผู้เชี่ยวชาญด้านไสยศาสตร์ ผู้ดูแลคนกว่าร้อยชีวิต ซึ่งเป็นผู้อุทิศตนช่วยเหลือชาวบ้านที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก เจ็บป่วยจากสิ่งลี้ลับต่างๆ และไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทน อีกทั้งยังช่วยจับพระสงฆ์ที่กระทำความผิดต่อพุทธศาสนา จนกระทั่ง คชาภา ตันเจริญ ได้ขนานนามว่า หมอปลา มือปราบพระ หมอปลามีความสนิทสนมกับคนในวงการบันเทิงหลายคน อาทิเช่น กรรชัย กำเนิดพลอย, คชาภา ตันเจริญ เป็นต้น
ประวัติส่วนตัว
– หมอปลามีชื่อจริงว่า นายจิรพันธ์ เพชรขาว (ชื่อเล่นว่า ปลา)
– เป็นคนจังหวัดเพชรบุรี
– เกิดเมื่อ วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2521
– เป็นลูกชายคนที่ 4 จากบรรดาพี่น้องทั้งหมด 6 คน
– สมรสกับ นางรภัสสรณ์ ฤทธิธนไพบูลย์ (ชื่อเล่นว่า น้ำฟ้า)
– นับถือศาสนาพุทธ
ประวัติการศึกษา
– จบระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดหนองกาทอง
– จบระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนบ้านลาดวิทยา
– จบระดับอนุปริญญาหรือปวสวิทยาลัยเทคนิคเพชรบุรี
– และได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ประวัติทางด้านสังคม
หมอปลาเคยเปิดเผยว่า พออายุได้ 24 ปี หลังจากจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี เขาก็มีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง และก่อนจะพบว่าตัวเองมีสัมผัสพิเศษทำให้รู้สึกถึงสิ่งลี้ลับ ในตอนแรกปลายนั้นก็รับเรื่องนี้ไม่ได้ แต่เพราะรู้สึกว่าเป็นชะตาชีวิตที่ถูกลิขิตไว้ ถึงทำใจยอมรับและก้าวไปข้างหน้าในเส้นทางนี้
หมอปลามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากขึ้น จากการทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณของชายรายหนึ่ง เพียงแค่ข้ามคืน หลังจากที่หมอปลาได้เข้ามาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้จำนวน 10 คนทันที
ต่อมาก็มีผู้คนมากมายมาหาหมอปลาอย่างไม่ขาดสายกว่าร้อยคน เพื่อให้ช่วยเรื่องการเจ็บป่วยที่พวกเขาคาดว่า เกิดจากสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ ทั้งหมอปลาก็มักจะออกทำลายศาลพระภูมิที่อยู่ตามริมถนนเพื่อให้สัมภเวสีได้รับบุญกุศลจากวัดเพื่อไปสู่สุคติ และหมอปลายเองก็มีผลงานหนังสือสำนักพิมพ์ แบงค์คอกบุ๊คส์ และยังมีช่องยูทูป เป็นของตัวเองด้วย
จนถึงปัจจุบันนี้หมอปลาก็ยังเปิดบ้านให้ผู้คนมารักษาไม่ได้เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ หมอปลาได้กล่าวไว้ว่า สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้คือการช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่า
ดังนั้นถึงแม้จะไม่ได้ใช้วิชาความรู้ตามที่ตนเรียนมา ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเสียดายและไม่ได้ทำเพื่อหวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวควรใช้วิจารณญาณในการพิจารณา เนื่องจากถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ในครั้งต่อไปเราจะพารู้เรื่องราวคนดังท่านใดบ้างท่านผู้อ่านสามารถกดติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดบทความใหม่ๆ ของเราครับ